ศัลยกรรมดึงหน้า ยกกระชับ ย้อนวัย

ผ่าตัดดึงหน้า-ปลอดภัย

ในยุคปัจจุบันเนี่ยการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติมาก เราก็เลยอยากจะมาพูดคุยในเรื่องจอง FACE LIFT หรือ ยกกระชับหน้า ดึงหน้า กันครับ เพราะว่าคนโน้นคนนี้บอกว่าไปทำแล้วดีมาก เราก็เลยอยากจะมาเจาะลึกลงรายละเอียดกัน ว่าถ้าไปดึงหน้าแล้วเนี่ยจะเป็นยังไง แล้วการดึงหน้ามีความเสี่ยงไหม ปลอดภัยไหม ควรจะทำดีหรือไม่ทำดี

ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องของศัลยกรรมยกกระชับ ดึงหน้า

และในวันนี้ค่ะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยรองศาสตราจารย์ นายแพทย์นนท์โรจน์ วชิรนนท์ จะเป็นผู้ให้คำตอบเกี่ยวกับการทำ FACE LIFT หรือการยกกระชับหน้า ดึงหน้า

การทำ FACE LIFT หรือการยกกระชับหน้า หรือถ้าเราเรียกภาษาไทยก็คือการดึงหน้านะครับ การดึงหน้าหรือเฟซลิฟต์ก็เป็นการผ่าตัดชนิดหนึ่ง เป็นศัลยกรรมตกแต่งชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้สำหรับการปรับเปลี่ยนใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัย ให้ดูสดใสทำให้ดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง

โดยทั่วไปก็หมายถึงการยกส่วนต่างๆ ของใบหน้าที่คล้อยต่ำลงให้สูงขึ้น แล้วก็ทำให้ผิวหนังตึงกระชับขึ้นด้วยครับ ในการดึงหน้าหรือทำเฟซลิฟต์ เราสามารถทำได้กับใบหน้าทุกส่วน โดยทั่วไปแล้วเราจะแยกใบหน้าออกเป็น 3 ส่วน

คือส่วนบนที่เป็นบริเวณหน้าผากและคิ้ว Endoscopic Forehead & Brow Lift ซึ่งจะหย่อนลงดูมีหนังตาตก เมื่อเวลาผ่านไปก็จะทำให้ดูแก่ ดูเศร้า สำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนรูปร่างคิ้ว ยกคิ้วให้สูงขึ้น โดยใช้วิธีส่องกล้อง ซึ่งวิธีนี้นั้นจะทำให้ชั้นตาตกน้อย ลงตีนกาก็ดูลดลง ใบหน้าจึงดูสดใสอ่อนเยาว์ดูเป็นธรรมชาติ แต่แผลที่เกิดขึ้นเนี่ยเล็กมาก และซ่อนอยู่ในหนังศีรษะที่มีผม

ในส่วนที่ต่ำลงมาคือใบหน้าส่วนกลาง ได้แก่แก้ม และใบหน้าส่วนล่างคือบริเวณขากรรไกรล่าง

การผ่าตัดดึงหน้าจะเน้นแก้ไขการหย่อนคล้อยที่ทำให้เกิดร่องข้างจมูก มุมปากตก แก้มห้อยและเหนียง โดยใช้ไหมเย็บเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและยกกระชับผิวหน้าผ่านแผลที่ซ่อนให้ผม ร่องหน้าหูและหลังหู ทำให้สามารถแก้ไขร่องข้างจมูกมุมปากที่ดูตก แก้มที่ห้อยแ ละเหนียงก็หายไป ตรงนี้จะทำให้ดูย้อนวัยเป็น 10 ปีทีเดียว

ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์และศัลยกรรมเนี่ยทำให้การดึงหน้ามีความปลอดภัยกว่าสมัยก่อนมาก ศัลยแพทย์มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคของใบหน้า ไม่ว่าจะเส้นประสาทกล้ามเนื้อเป็นอย่างดีเลย โรงพยาบาลเรามีทีมแพทย์ศัลยแพทย์ที่จะทำให้ผู้ป่วยเนี่ยหลับหรือสลบไประหว่างผ่าตัดได้ ระหว่างการผ่าตัดที่มีการตรวจวัดสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง ทำให้พบและแก้ไขความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วทันที

เรามีการใช้ยาและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยที่เหมาะสมสำหรับการผ่าตัดแต่ละชนิดด้วย ที่สำคัญประชาชนต้องระมัดระวังนะครับ ถ้าหากท่านได้รับคำปรึกษาว่าเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าเป็นเทคนิคใหม่ ทำโดยไม่ต้องดมยาสลบ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลกลับบ้านได้เลย 2 วันสวย การผ่าตัดที่โฆษณาหรืออ้างว่าแพ้น้อยกลับบ้านได้เร็วแบบนี้ ต้องระมัดระวังนะครับ อย่ามีความคาดหวังสูงมาก บางคลินิกเนี่ยอาจจะไม่มีแม้แต่พยาบาลจริงๆ อยู่ประจำด้วยซ้ำ บางคลินิกมีความเสี่ยงสูงมาก ไม่ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานอย่างที่ควร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยากที่ประชาชนทั่วไปจะทราบได้นะครับ ฉะนั้นถ้าหากท่านจะต้องมีการผ่าตัดศัลยกรรมความงาม เราจะต้องทำให้หลับนะฮะ

หากเกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเนี่ย ชีวิตของท่านก็จะตกอยู่ในอันตรายครับ อยากจะฝากไว้สำหรับประชาชนหรือผู้ที่สนใจนะครับผู้ที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงหน้า การผ่าตัดดึงหน้าเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างใหญ่ ใหญ่กว่าการตัดไฝ หรือแก้แผลเป็น ถ้าหากว่าเราเลือกการผ่าตัดที่ทำเพียงระยะเวลาสั้นๆ มีการระงับความเจ็บปวดที่ไม่ซับซ้อน เช่น อาจจะเพียงแค่ฉีดยาชาอย่างเดียว แบบนี้ความเสี่ยงก็จะน้อยกว่าการผ่าตัดที่ทำยาวนานหลายชั่วโมง แล้วแถมยังต้องนมยาสลบด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นการผ่าตัดที่ต้องฉีดยานอนหลับทำให้เราหมดสติ เราต้องควบคุมการหายใจด้วยตัวเอง มันจะไม่เหมือนกับการดมยาสลบที่มีการใส่ท่อหายใจเข้าไปแล้วก็มีวิสัญญาแพทย์ดูแล ซึ่งจะมีความปลอดภัยสูงนะ ดูผลลัพธ์หลังผ่าตัดดึงหน้า รีวิวดึงหน้า

ถ้าเป็นการฉีดทำให้เราหลับภายในคลินิก ไม่มีศัลยแพทย์แบบนี้ เราเลือกตัวเราเองเนี่ยไปอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงครับ ขอเชิญประชาชนและผู้ที่สนใจทางด้านศัลยกรรมความงามนะครับรวมทั้งการดึงหน้ามารับคำปรึกษาได้ที่หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งฝ่ายศัลยศาสตร์ทุกวันจันทร์และพุธช่วงเช้าที่ตึกภปรโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฝากขายชาติไทยครับ

จะเห็นได้เลยว่า ปัจจุบันมีสถานพยาบาลหรือคลินิกเสริมความงามให้เลือกใช้บริการมากมาย แต่ว่าก่อนที่เราจะตัดสินใจในการทำศัลยกรรมใดๆ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และควรประเมินความเสี่ยง ไตร่ตรองถึงผลที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ที่แท้จริง

ที่มาของข้อมูล